การต่อเติมบ้านให้สวยทันสมัย ด้วยหลังคาเมทัลชีท อาจทำให้บ้านสวย น่าอยู่อาศัย แต่หากมองข้ามสิ่งที่ควรรู้ก่อนต่อเติมบ้าน ในการเลือกซื้อหลังคาเมทัลชีท ก็อาจก่อให้เกิดปัญหาตามมาได้ เพราะการสร้างบ้านไม่เพียงเน้นแค่ความสวยงาม แต่รวมถึงความทนทาน แข็งแรง และอยู่ได้อย่างยาวนาน
หลังคาเมทัลชีท ผลิตจากเหล็กคอยล์ เคลือบด้วยโลหะผสมอลูมิเนียมและสังกะสี มีคุณสมบัติ ทีบแสง น้ำหนักเบา พบเจอรอยต่อน้อย มีอายุการใช้งานที่พอเหมาะ และสามารถดัดโค้งได้ ซึ่งในปัจจุบันเป็นที่นิยมใช้ในการมุงหลังคา นอกจากนี้ยังมีการนำมาใช้เป็นผนังของอาคารต่างๆอีกด้วย เรามาดูกันว่า หลังคาเมทัลชีท มีกี่แบบ โดยเราจะเลือกแบบที่นิยมมาติดตั้งเป็นหลังคาบ้านมาแนะนำในบทความนี้
แผ่นหลังคาเมทัลชีทแบบธรรมดา หรือแบบแผ่นเปล่า
แผ่นเมทัลชีทจะมีลักษณะเป็นเหล็กแผ่นบางเคลือบสารป้องกันสนิมที่ผิวบนและล่าง และแผ่นตัวนี้นำมารีดขึ้นลอน สามารถนำมาใช้เป็นแผ่นหลังคาหรือกั้นเป็นผนังได้ แต่จะมีคุณลักษณะทึบแสง ไม่ใช่แผ่นหลังคาโปร่งแสง เหมือนหลังคาชินโคไลท์หรือหลังคาโพลีฯ
แผ่นเมทัลชีทมีโครงเหล็กเป็นตัวยึด เคลือบอลูซิงค์เป็นการเอาแผ่นเหล็กมาเคลือบสารที่มีส่วนผสมหลักเป็นสังกะสี และอลูมิเนียม เพื่อป้องกันการผุกร่อนจากการเป็นสนิม และให้ดูสวยงาม อาจจะมีการเคลือบสี เพื่อความสวยงามทับไปที่ผิวบนอีกทีหนึ่ง การเลือกแผ่นหลังคาลักษณะนี้มาติดตั้ง ข้อดีคือ จะมีราคาถูก เพราะจะคิดราคาเป็นต่อเมตร ข้อเสียคือ จะทำให้ใต้มุงหลังคาบ้านร้อนมาก ในช่วงกลางวันที่แดดแรง และเมื่อเวลาฝนตกจะมีเสียงดังมาก
แบบติดฉนวนกันความร้อน PE
จะเป็นแผ่นหลังคาที่มาพร้อมกับฉนวนกันความร้อน PE ภายใต้แผ่นหลังคา จะมีลักษณะเป็นแผ่นบาง ๆ ออกสีเงิน ข้อดีคือของหลังคาเมทัลชีทแบบนี้ สามารถลดความร้อนได้ดีกว่าแบบธรรมดา ลดเสียงดังของเม็ดฝนได้บ้างถ้าเทียบกับแบบธรรมดา แต่จะความทนทานต่ำ 5-6 ปีจะเริ่มหลุด ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพของวัสดุในที่นำมาประกอบด้วย
แบบติดโฟม PU
หลังคาเมทัลชีทแบบนี้จะใช้โฟมพียูชนิดที่กันไฟลาม โดยเป็นแผ่นหลังคาเมทัลชีทบุฉนวนพียูสำเร็จรูปพร้อมใช้งานที่ติดตั้งส่วนใหญ่จะหนา 1 นิ้ว มีความหนา 2-3 นิ้ว ยิ่งหนายิ่งดี เพื่อป้องกันความร้อนสูง ทำให้บ้านเย็นสบาย สามารถป้องกันเสียงกระทบจากเม็ดฝน หลังคาแบบติดโฟม PU ผลิตจากเหล็กรีดลอน มีอยู่ 2 ชนิด PU Foam ที่มีอลูมิเนียมฟอยล์ปิดทับใต้แผ่นหลังคาเมทัลชีท มีความเหนียว ยืดหยุ่น และทนทาน นอกจากนี้ยังสามารถสะท้อนแสงสว่างได้ดี และชนิด PU Foam ที่มีแผ่นพีวีซีทับอยู่ ซึ่งแผ่นพีวีซีมีทั้งสีขาวและสีดำ มีลักษณะคล้ายกับวอลเปเปอร์ แต่ถ้าโดนแดดจะทำให้มีสีเหลือง แตกหักได้ง่าย ส่วนราคาของหลังคาแบบ PU Foam นี้ ขึ้นอยู่กับความหนาของบุฉนวน ซึ่งแผ่นหลังคาแบบติดโฟม PU นี้ เหมาะกับบ้านหรืออาคารที่ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ
แบบมีฉนวนความร้อนอยู่ระหว่างสองแผ่น (Sandwich Panel)
แผ่นเมทัลชีทรูปแบบมีฉนวนกันความร้อนตรงกลางระหว่างแผ่น จะเป็นแผ่นหลังคามีแผ่นเมทัลชีทประกบทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยส่วนตรงกลางจะเป็นโฟมพียู (PU Foam) ซึ่งจะกันร้อน และกันเสียงได้ดี การติดแผ่นเมทัลชีทประกบทั้งด้านหน้าและด้านหลังด้วยจะทำเพื่อความสวยงาม เรียบร้อย ป้องกันเศษโฟมหลุดออกมาในระยะยาว อีกทั้งยังมีเสียงดังน้อยกว่าแบบอื่นๆเมื่อมีฝนตกหนัก ที่สำคัญคือแข็งแรงเพราะมีแผ่นเหล็กประกบ 2 ด้าน แผ่นหลังคาชนิดนี้มักมีราคาสูงเมื่อเทียบกับแผ่นเมทัลชีททั่วไป แต่ป้องกันความร้อนได้ดีกว่าแผ่นเมทัลชีทรูปแบบอื่นๆ เหมาะกับบ้านที่อยู่อาศัยที่ต้องการเมทัลชีทที่มีคุณภาพ ใช้งานในระยะยาว
ดังนั้น การจะติดตั้งแผ่นหลังคาเมทัลชีทควรเลือกให้เหมาะสมกับสภาพอากาศและการใช้งาน ปัจจัยที่สำคัญคือ ความหนาของแผ่นหลังคาเมทัลชีทที่มากพอ รูปแบบฉนวนป้องกันความร้อน และงบประมาณที่ตั้งไว้
บทความโดย Proper Roofing ผู้เชี่ยวชาญด้านงานหลังคา
