หลังคาบ้าน ถือว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับบ้านที่เราต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะช่วยปกป้องอาคารและสมาชิกในบ้านจากแดด ลม ฝน และมีคุณประโยชน์อีกมากมาย ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงสร้างหลักของบ้านเลยทีเดียว การเลือกรูปแบบของหลังคาที่เหมาะสมกับตัวบ้านนั้นก็ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญเหมือนกัน ทางเราจะมาแนะนำรูปแบบของหลังคาบ้าน 6 แบบ ดังนี้
1. หลังคาแบน หรือ SLAB
มักนิยมใช้เป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก เหมาะกับบ้านที่เป็นแบบโมเดิร์น โดยสร้างขึ้นเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยบนหลังคาได้ เช่น ใช้เป็นที่พักผ่อน ตากผ้า หรือแม้กระทั่งจัดสวนเป็นต้น หลังคารูปแบบนี้จะสะสมความร้อนไว้มากกว่าแบบอื่นๆ ทำให้เกิดการคายความร้อนออกมาในช่วงที่อากาศเย็นลง หลังคาแบบแบน (Slab) จะมีความลาดเอียงน้อย น้ำฝนจึงมักขังอยู่บนหลังคาได้ง่าย ทำให้เกิดการรั่วซึมอยู่บ่อย จึงไม่เป็นที่นิยมสำหรับบ้านเรือนที่พักอาศัยในเขตร้อน
2. หลังคาเพิงหมาแหงน
หลังคาเพิงหมาแหงนได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นรูปทรงเรขาคณิต ดูแล้วมีความเรียบง่าย แสดงให้เห็นถึงความทันสมัยมากกว่ารูปแบบอื่น ๆ ด้วยรูปแบบของหลังควเพิงหมาแหงนทำให้สามารถระบายน้ำฝนได้ เหมาะสมสำหรับบ้านขนาดเล็ก เนื่องจากก่อสร้างง่าย รวดเร็ว ราคาประหยัด แต่ต้องระวังควรให้หลังคาบ้านมีองศาความลาดเอียงมากพอ ที่จะระบายน้ำฝนออกได้ทันไม่ไหลย้อนซึมกลับเข้ามาได้
3. หลังคาปีกผีเสื้อ
ประกอบด้วยหลังคาเพิงหมาแหงน 2 หลังหันด้านที่ต่ำกว่ามาชนกัน รูปแบบคล้ายปีกผีเสื้อ ไม่ค่อยได้พบเห็นในประเทศไทยสักเท่าไหร่ เพราะถ้าฝนตกน้ำจะไหลสู่ที่ต่ำ ทำให้รางน้ำมีโอกาสรั่วซึมได้สูง ยกเว้นอาคารที่ต้องการลักษณะเฉพาะพิเศษที่แปลกตาออกไปเท่านั้น
4. หลังคาหน้าจั่ว (ทรงมนิลา)
หลังคาหน้าจั่วมีใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะประเทศไทย ทรงจั่วมีลักษณะมีสันตรงกลางและลาดลงทั้ง 2 ข้าง ความเหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศร้อนชื้น เพราะสามารถทำการก่อสร้างได้ง่าย ป้องกันแดดได้ดี ระบายน้ำฝนได้ดี และยังสามารถระบายความร้อนใต้หลังคาได้ดีเพราะมีพื้นที่เหลือเยอะ ซึ่งอาจดูเหมือนเปลืองพื้นที่ แต่ก็สามารถใช้ประโยชน์กั้นเป็นห้องได้ นอกจากนี้หลังคาทรงหน้าจั่ว ถือว่าเป็นรูปแบบหลังคามาตรฐานของประเทศไทยเลยก็ว่าได้
5. หลังคาทรงปั้นหยา
ทรงปั้นหยาเป็นรูปแบบที่มีความนิยมกันกับบ้านสไตล์ญี่ปุ่น เกาหลี และประเทศไทย ลักษณะพิเศษของหลังคาทรงปั้นหยา คือ การครอบคลุมเป็นไปได้ทุกทิศทุกทางของตัวบ้าน เพราะมีด้านลาดเอียงของหลังคาทั้ง 4 ด้านขึ้นไปชนกัน มักจะพบกันในภาคใต้เพราะมักจะมีลมและฝนพัดมาจากทุกทิศทาง ปัจจุบันนิยมใช้กันมากในงานแบบบ้านพักตากอากาศ แต่ก็ระบายความร้อนได้น้อยกว่าแบบจั่ว หลังคาปั้นหยาสามารถพบเห็นได้ในอาคารจำพวกรีสอร์ท หรือบังกะโล ไปจนถึงเรือนไทยซึ่งคุณสมบัติเด่นอื่น ๆ ที่ไม่เหมือนใคร
6. หลังคาแบบร่วมสมัย
เป็นหลังคาที่มีรูปทรงทันสมัย แตกต่างจาก 5 แบบข้างต้น และใช้วัสดุที่ทันสมัย ก่อให้เกิดรูปทรงแปลกตา หรือแม้กระทั่งใช้เป็นหลังคาโปร่งแสงแผ่นเรียบ แต่ต้องระวังเรื่องความร้อน และการรั่วซึม หลักๆหลังคากลุ่มนี้จะไม่มีรูปแบบที่ตายตัวมากนักแต่ว่าจะเน้นเรื่องความสวยงาม และมีฟังก์ชันพิเศษเพื่อทำเป็นระเบียงให้กับพื้นที่ใต้หลังคา โดยกลุ่มนี้มักจะไม่ได้เป็นที่นิยมเนื่องจากการจัดการและการติดตั้งต้องมีมาตรฐานหรือเครื่องมือที่ต้องการการลงทุนที่ข้อนข้างสูง ดังนั้น การสร้างบ้านจะต้องระบุไว้ชัดเจนว่าบ้านแต่ละสไตล์จะต้องทำหลังคารูปแบบไหน ต้องคำนึงเรื่องสภาพภูมิอากาศ สภาพแวดล้อมในสิ่งที่ก่อสร้างนั้น ๆ เพื่อความเหมาะสมและความปลอดภัยของตัวบ้าน รวมถึงการเลือกใช้วัสดุหลังคาแต่ละประเภทอีกด้วย
บทความดีๆ โดย Proper Roofing ผู้เชี่ยวชาญด้านงานหลังคา
https://www.properroofing.com/
